ไม่บ่อยครั้งที่จะมีกิจกรรมดีดีที่จุดประกายความคิดความรู้สึกของคนครับ
ในสมัยก่อนมีกิจกรรมคล้ายๆกันนักพูดมาพูดให้แนวคิด มี commentator ที่มีชื่อเสียงมากมายมาสัมมนา
แต่ข้อเสียคือเนื้อหามาก และใช้ระยะเวลานานในการฟัง ทำให้เราฟังได้ไม่กี่คนต่อวัน
แต่รูปแบบของ ignite ที่เป็นมาตรฐานสากล ด้วยกำหนดเวลา 5 นาที และสไลด์ 20 ชิ้นนั้น ช่วยให้เราได้ฟังรวบยอดความคิดจากผู้พูดเก่งๆที่หลากหลายมากขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ 5 นาทีต่อคน ชั่วโมงนึง อาจได้ได้ถึง 10-12 คน ทีเดียว
พูดง่ายๆว่า Ignite คือ งานพูดแบบจุดประกาย สร้างแรงบันดาลใจด้วยการพูดให้จับใจคน โดยใช้สไลด์ 20 ชิ้น ใช้เวลาพูดจำกัดภายใน 5 นาที ซึ่งมีผู้จัดหลากหลาย ที่เป็นที่รู้จัก เช่น ตามแบบ O’reilly USA. ที่จัดสำหรับประชาชนทั่วไป
นอกจากนั้นก็มีผู้จัดที่น่าสนใจแบบอื่นๆ เช่น แบบระดับเยาวชนและนักเรียน เช่น ตามแบบ Ignite Youth และ ตามแบบ Ignite Student Ministry ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของเยาวชน ซึ่งผมเคยคิดจะเอามาจัดในระดับเยาวชนตั้งแต่ปีที่แล้ว
ส่วนในประเทศไทย ก็มีการจัด Ignite ตามแบบ O’reilly USA. ชื่อ Ignite BKK
และในโอกาสกระแสพลังบวกหลังวิกฤตของชาติ ก็มีการจัดกิจกรรมพลังบวกโดยใช้ลักษณะกิจกรรมแบบ Ignite ขึ้นมา โดยเน้นการเชิญบุคคลที่น่าสนใจ มาเป็นผู้ถ่ายทอดความคิด ประสบการณ์ เพื่อจุดประกายพลังบวก
วันที่ 16 มิย. 2553 เป็นการจัด IgniteThailand ขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจากเคยจัด IgniteBKK มาแล้วครั้งนึง ได้ไปเก็บบรรยากาศบางส่วนมาให้ติดตามกันครับ ส่วนที่ Igniter แต่ละคนพูดน่าจะตามมาทาง www.ignite.in.th ในไม่ช้านี้ คิดว่าคงไม่ต้องเจาะ เพราะเดี๋ยวคงจะมีต้นฉบับออกมาอยู่แล้ว เอาเป็นบรรยากาศในมุมของผู้ชมดีกว่า
ผู้พูดที่ผมประทับใจสุดๆคงจะเป็นคุณ @rawitat เจ้าของ Petdo และ @iannnnn กับไอ้อ๊อด
เพราะเป็นสายการ์ตูน..แฮ่ม
ที่กินใจมี คุณณัฐศักดิ์ ท้าวอุดม (ครูยุ) ภาพของคนที่จมน้ำและเรื่องราวของการสอนการว่ายน้ำให้คนหูหนวกกระแทกใจอย่างแรง รวมถึงแนวความคิดที่มีต่อจิตอาสา ได้รับเสียงปรบมืออย่างยาวนานมากครับ
ที่เหลือนั้นจัดว่ามีคนชมกันอย่างไม่ขาดสาย ทั้งความชื่นชอบส่วนตัว
ความฉมังในการพูดครับ คงไม่ต้องพูดถึงไปรอชมกันได้เร็วๆนี้ น่าจะตามดูได้ใน www.ignite.in.th ได้ในเร็วๆนี้
ตอนนี้เอาบรรยากาศเล็กๆกันไปก่อนประสาคนชอบเก็บเกี่ยวประสบการณ์แล้วกันครับ
ที่จริงแล้วไอเดียและชื่อกิจกรรม IgniteThailand นี่ ช่วงต้นปี ผมเคยจะไปจัดกับเยาวชนทั่วประเทศ (คล้ายๆสมัยก่อนที่มีกิจกรรมโต้วาทีทำนองนั้นครับ) เพราะรูปแบบการจำกัดเวลา สรุปใจความให้เป็นในเวลาจำกัด จะทำให้เยาวชนได้พัฒนาตนเองมากๆ อาจรวมไปถึงประชาชนทั่วไปด้วย ให้เป็นกิจกรรมระดับ mass
โตขึ้นเราจะได้บุคลากรที่มีความสามารถในการสรุปประเด็นที่ชัดเจนสั้นๆ ไม่น้ำท่วมทุ่งผักบุ่งโหรงเหรงครับ
วิธีคิดจะต่างกับแบบคุณเอ๋อที่จัดกิจกรรม Ignite ตามแบบ O’reilly USA. Ignite Thailand ในปัจจุบัน เล็กน้อย คือเรามองที่การริเริ่มไปที่เยาวชน ซึ่งจะเป็นแบบ Ignite youth และ Ignite student ministry เน้นกิจกรรมส่งเสริมเยาวชน สร้างพื้นฐานการรวมรวบความคิดเพื่อถ่ายทอดในเวลาจำกัด ทำให้สามารถเป็นผู้ที่สรุปใจความได้ดีเอาไปใช้ประโยชน์ได้ดีเมื่อโตขึ้น (สร้างคน สร้างชาติ สร้างเยาวชน=สร้างชาติ) เคยคุยเคยเล่ากันในงาน Smcon นิดหน่อย เนื่องจากทางผู้ใหญ่ที่รู้จักกันมาของไอเดียเกี่ยวกับช่องช่องหนึ่ง ซึ่งผมได้นำเสนอตัวอย่างโดยยึดแนวทางของกิจกรรม Ignite ไปว่าในฐานะของช่อง ควรจะเปิดโอกาสหลากหลายให้กับเยาวชน ด้วยคอนเซ็ปต์ สร้างคน สร้างชาติ ก็น่าจะแตกออกได้เป็น สร้างเยาวชน=สร้างชาติ ซึ่งก็ควรมีโครงการที่สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของเยาวชน ก็เตรียมไปถึงขนาดไปจด Ignitethailand.com และเตรียมงานไว้ครบเครื่องทั้งใน Twitter.com/ignitethailand และ Facebook.com/ignitethailand ไว้ตั้งแต่ต้นปีโดยจัดเป็นกิจกรรมสร้างเยาวชนทั่วประเทศ ตอนนั้นคุณเอ๋อติงโลโก้ตัวอย่างที่ออกแบบ ซึ่งผมก็รับฟังนะ แต่เข้าใจว่าคงจะมองคนละเรื่องเดียวกัน เนื่องจากชื่อกิจกรรมพ้องกัน แต่เพราะเนื่องจากในช่วงเมษา-พค. มีเหตุการณ์การเมืองเสียก่อน และหลังจากนั้นก็มีการปรับเปลี่ยน ครม. ก็เลยยังไม่ได้ทำอะไรคืบหน้าต่อ พอดี มีกิจกรรมเร่งด่วนแบบบวกๆ คุณเอ๋อถือโอกาสเอามาจัดเป็น Ignite thailand เสียก่อน ก็เสียดายกิจกรรมที่เคยคิด และชื่อนี้เล็กน้อยด้วยความผูกพันกับโครงการนี้ แต่ก็ไม่มีอะไรมาก
คนเราถ้าเราใจกว้างกับกิจกรรมสังคมที่เป็นประโยชน์ ไม่สำคัญว่าใครจะจัดหรือออกงาน
หรือเราจะเป็นส่วนไหนของงาน ขอแค่เป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมจริงๆก็พอครับ
ชีวิตที่เกื้อกูลผู้อื่น ทำให้เราเห็นคุณค่าของชีวิต และการให้..
แต่ถ้าเราไม่คิดทำให้กิจกรรมดีดีเหล่านี้ เป็นแค่เครื่องมือประกาศความมีอยู่ของอัตตา
หรือเป็นเพียงกิจกรรมสร้างภาพที่ตอบ สนองตัวเอง มากกว่าที่จะให้ผู้อื่นอย่างแท้จริงแล้ว
ไม่ว่าใครจะจัด เราก็จะเข้าร่วมด้วยจิตใจสดใสเบิกบานเสมอครับ
IgniteThailand เป็นกิจกรรมที่ดีนะครับ
ยิ่งถ้าเอามาประยุกต์ใช้ได้มากเท่าไหร่ยิ่งเป็นประโยชน์กับสังคมแน่นอนครับ
ยิ่งถ้าใครได้สัมผัสงานแล้วคงจะเชื่อเช่นเดียวกันกับผม
ช่วยกันทำให้กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมของสังคมส่วนรวมกันครับ
iwhale
ขอเรียนชี้แจงเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องด้วยครับ เนื่องจากที่เราเจอกันในงาน SMCON ผมได้แจ้งไปว่า “Ignite” เป็นเครื่องหมายการค้าของทาง O’reilly USA. การใช้เครื่องหมายนี้จึงต้องขออนุญาติให้ถูกต้อง และจะต้องปฎิบัติตาม Guideline ที่เขากำหนดมาด้วยครับ ที่คุณบอกว่าทางบริษัทของคุณจะนำชื่อ Ignite ไปรับงานกระทรวง ICT ทำรายการทีวีให้ ผมจึงเตือนว่าทำไม่ได้เพราะทางเมืองนอกไม่ได้อนุญาตให้เอาชื่อนี้ไปทำรายการในแบบของคุณที่เล่ามาว่าจะไปทำกิจกรรมเด็กหรือที่มาถ่ายจากในงานต่างๆเพราะจะละเมิดเครื่องหมายการค้า (ที่ไม่ใช่ของผม) อันจะเป็นความเสี่ยงของคุณเองหากถูกฟ้องร้อง เรื่องราวที่ถูกต้องเป็นดังนี้ครับ
ในงานแถลงข่าวเมื่อวานผมก็ได้ประกาศออกไปชัดว่าอยากให้มี Ignite กันทั่วประเทศโดยผมไม่ได้เป็นผู้จัดทุกครั้ง เราต้องช่วยๆกันครับ ทางเครือข่ายพลังบวกจึงได้ชวนอาจารย์บอม @ajbomb เป็นตัวแทน TwitCM มาจากเชียงใหม่เนื่องจากทีมเชียงใหม่ก็สนใจจะจัดเช่นกัน เรากระจายตัวกันทำแน่นอนและทางเครือข่ายพลังบวกรวมถึงตัวผมเองก็ยินดีที่จะสนับสนุน เป็นส่วนร่วม เพื่อให้ผู้จัดในแต่ละท่านได้เป็นผู้นำและเราเป็นกองหลังบ้าง ถ้าคุณ geranun ต้องการจัดงาน Ignite ผมก็ยินดีครับ แต่จะต้องทำให้ถูกต้องตามหลักการของงานครับ
G®anun
เรื่องเครื่องหมายการค้า เรื่องนึงขอแก้คำว่าละเมิดเครื่องหมายการค้าครับ
ที่จริงแล้วต้นแบบแรงบันดาลใจของโลโก้ มาจาก IGNITE Youth และ Ignite student ที่เป็นองค์กรที่จัดกิจกรรมสำหรับนักเรียนคริสเตียนครับ
ไอเดียนี้มาจากเพื่อนชาวคริสเตียนที่รู้จักกันครับ ไม่ได้ไปดัดแปลงจากเครื่องหมายการค้าของ O’reilly USA อย่างที่คุณเข้าใจ แต่ก็อยากบอกว่าขอบคุณที่ติงอยู่ดี
ส่วนโดเมน ignitethailand ที่จดไว้ตั้งแต่มีนา ยิ่งไม่น่ามีปัญหาเพราะขนาดโดเมน ignite.com ก็ไม่ใช่ของทาง O’reilly USA ครับ
จุดนี้ โดยทั่วไปใน ตปท.เอง คำว่า ignite ก็มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายมาก เพราะเป็นคำศัพท์สามัญที่สื่อความหมายกิจกรรมโดยตรง ซึ่งกฏในการจดเครื่องหมายการค้าบางส่วนก็คล้ายๆเรา ลองเชคได้ครับ แต่ก็ขอบคุณที่เตือนด้วยความห่วงใยนะครับ
และอีกเรื่องเมื่อเป็นโลโก้ตัวอย่างที่ยังไม่ได้สรุปมาใช้จริง ก็ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เพราะเดิมที่เคยคุยกันผมก็บอกอยู่แล้วว่า ตอนนั้นเป็น Pilot การนำเสนอความคิดให้ทางผู้ใหญ่ ที่เห็นว่าช่องของไอซีที น่าจะมีส่วนของ”โครงการส่งเสริมเยาวชน” ตามคอนเซปต์สร้างคน สร้างชาติ ไปสู่ สร้างเยาวชน = สร้างชาติ เจตนาต้องการให้ส่งเสริมการจัดกิจกรรม Ignite ในเมืองไทยในระดับเยาวชน และมีการสนับสนุนถ่ายทอดกิจกรรมนี้ผ่านสื่อของไอซีที เหมือยอย่างที่เคยบอกว่ากิจกรรม Ignite นั้นถ้ามีสื่อมาถ่ายทอดกิจกรรมจะทำให้กระจายไปในวงกว้างอย่างรวดเร็วแทนที่จะเป็นกลุ่มแคบๆ ที่ได้ฟัง ซึ่งโดยเจตนาก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ามุ่งหวังอะไร ผมเพียงแค่บ่นเสียดายไอเดียที่เคยเล่าให้คุณฟังว่าน่าจะได้ทำ ซึ่งตอนนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปหลายเรื่อง ทั้งกระทรวงก็เปลี่ยนแปลง มีการปรับ ครม. หลายกระทรวงรวมถึงไอซีทีด้วย ซึ่งผู้ที่มาดูแลต่ออาจจะมีโครงการอื่นๆต่อไป ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นไงต่อไป (ช่างมันเถอะ..)
สำหรับในเมืองไทย ตอนนี้คุณเอ๋อเองก็ได้ชื่อเป็นผู้ริเริ่มกิจกรรม Ignite อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าใน ตปท.การจัดกิจกรรม ignite ตามแบบ O’reilly USA นี้ใครจะทำก็ได้เพียงแค่แจ้งรูปแบบการจัดไปให้ทางนั้นทราบ กติกาก็มีเท่านี้ พอเขารับทราบแล้วก็ดำเนินการตามกรอบเขาให้เป็นมาตรฐานตามแบบเขา ตรงนี้ใครจะจัดกิจกรรมแบบเขาก็ต้องยอมรับกติกาเขาแน่นอนอยู่แล้ว ควรอย่างยิ่ง
ผมยังเคยบอกแล้วตั้งแต่ในงาน IgniteBKK ว่าดีใจมากที่มีคนจัด Ignite ในเมืองไทย สิ่งที่สำคัญคือต้องมีคนทำหน้าที่สื่อกระจายให้กว้างออกไปอีก สำหรับการจัดงาน Ignite ซึ่งโดยศักยภาพของคุณก็เป็นที่ยอมรับและทำได้ดีอยู่แล้ว ทั้งความกว้างขวาง แวดวงที่รู้จัก เทียบกันแล้วผมเองเป็นแค่ตาแก่ธรรมดาธรรมดาที่ชื่นชอบกิจกรรม Ignite และมีงานอดิเรกชอบติดตามกิจกรรมดีดีที่น่าสนใจเท่านั้น การที่บางครั้งมีจังหวะและโอกาสในการนำเสนอความคิดผลักดัน Ignite ในภาครัฐนั้นก็คงมีแค่ครั้งเดียว ไม่มีบ่อยๆ ผมถึงบ่นเสียดาย ซึ่งถ้าจัดก็คงนำโครงรูปแบบกิจกรรมแนวนี้มาประยุกต์ก็ได้ให้เหมาะกับเยาวชนไทยตามแบบ ignite youth เรื่องนั้นคงว่าไปตามโอกาสในอนาคต
อย่างไรก็ดีผมก็ยังชื่นชมกิจกรรมดีดีที่คุณจัด และมีความตั้งใจเหมือนกับคนที่ได้สัมผัสกิจกรรมนี้ทุกคน ที่จะสนับสนุนเผยแพร่กิจกรรมนี้ต่อๆไปให้คนรู้จักเช่นเดิม กิจกรรมสาธารณะนั้นทุกคนต่างมีแวดวงของตนเองที่ไปช่วยกันเผยแพร่ต่อได้ ผมคิดว่าก็คงจะเป็นส่วนหนึ่งในนั้นที่คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระจายข่าวต่อเช่นกัน
สุดท้ายนี้ หวังว่าจะใจดีให้เสื้อมาเชยชมเช่นเคยนะครับ
G®anun
ปล.1 อีกด้านก็เลยกลายเป็นว่าต้องเขียนรายละเอียดไว้พอสมควรเพื่อที่ให้คนที่มาอ่านเข้าใจมากขึ้น ได้รับข้อมูลในการพิจารณาหลายๆด้าน
ปล.2 อย่างที่ผมบอกแหละครับ กิจกรรมดีดี ไม่สำคัญหรอกว่าผมจะอยู่ตรงไหนของงาน ขอแค่เข้าร่วม ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็ได้ทั้งนั้น แม้กระทั่งผู้ฟัง ผู้ชมก็เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในงาน ที่จะทำให้เกิดภาพรวมของงานขึ้นมา
ตอนนี้ผมมีความสุขกับการติดตามกิจกรรม และเอามาเล่าต่อครับ วางจุดยืนแค่นี้ก็พอ คิดว่าน่าจะลงตัวแล้วครับ