Miyamoto Musashi Ganryujima Memory Trip

วันนี้พาไปตามรอย มิยาโมโต้  มุซกันต่อครับ หลายคนคงจำได้ว่าผมเคยพาไปตามรอยมุซาชิกันครั่งนึงแล้ว คราวนี้ก็เป็นอีกสถานที่นึงในประวัติศาสตร์ของมุซาชิ คือเกาะกันริวจิม่า Ganryujima

เกาะกันริวจิม่า สถานที่ ที่ 2 สุดยอดดาบแห่งยุคอย่าง มิยาโมโต้ มุซาชิ และซาซากิ โคจิโร่ ประดาบกัน มีอยู่จริงไหม และอยู่ที่ไหน

จากการค้นหาข้อมูลในที่สุด ก็พบว่าเกาะกันริวจิม่า มีอยู่จริง แต่การเดินทางไปก็ใช่ว่าง่าย ๆ ครับ เส้นทางมี 2 แบบคือจากโอซาก้า หรือจากทางฟุคุโอกะ

จากโอซาก้าเราต้องนั่งรถไฟไปถึงคิวชู ลงที่ฟูคุโอกะ หรือที่คิตะคิวชูก็ได้ ก่อนที่จะนั่งรถไฟท้องถิ่นไปยังเมืองชิโมโนซากิ และต่อรถบัสท้องถิ่นไปยังท่าเรือที่มีบริการพาไปเกาะกันริวจิม่า ไกลพอสมควรแต่ว่าเราก็อยากไป เพราะว่าอยากไปถึงสถานที่จริง ๆ ในประวัติศาสตร์ ที่ ๆทำให้เกิดแรงบันดาลใจทั้งบทประพันธ์ ละคร นิยายและการ์ตูนมากมาย เป็นตัวละครยอดฮิตมหาอมตะนิรันดร์กาลของญี่ปุ่นตัวนึงที่ทำให้เราเข้าไปสัมผัสถึงอารมณ์แห่งวิถีดาบ

Shimonoseki station

จาก JR Hakata station หรือ JR Kokura station นั่งรถไฟสาย JR Sanyo line สู่ JR Shimonoseki station

Shimonoseki
ในบ้านเราเคยมีหนังสือแปลมุซาชิฉบับท่าพระจันทร์ชื่อคัมภีร์ห้าห่วง ในการ์ตูน เรื่องที่ประทับใจผมมากที่สุดคือการ์ตูนอีกเรื่องที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องมุซาชิที่ผมชอบมาก คงจะเป็น Vagabond ของ ทาเคฮิโกะ อิโนอุเอะ ซึ่งเขียนไว้น่าอ่านมาก แต่ก็ยังไม่ถึงตอนนี้สักที และเรื่องราวของมุซาชิ ของ 2 ต้นฉบับนี้เป็นแรงบันดาลใจของผมในการเดินทางค้นหาเรื่องราว และสถานที่ในประวัติศาสตร์ของ Miyamoto Musashi

miyamoto musashi

http://www.musashi-miyamoto.com/sasaki-kojiro.html

Karato Ichiba

ใกล้ ๆ ท่าเรือมี ตลาดปลาคาราโตะ (Karato Ichiba)

เกาะกันริวจิม่า เดิมชื่อว่า ฟุนาชิม่า หรือเกาะเรือ แต่เปลี่ยนชื่อหลังจากการประลอง คำว่ากันริวก็มาจากชื่อวิชาดาบกันริวของโคจิโร่นั่นเอง

การประลองดาบมิยาโมโต้ มุซาชิ และซาซากิ โคจิโร่ เป็นเรื่องเล่าที่โด่งดังมากในญี่ปุ่น และถูกนำมาใช้นวนิยาย การ์ตูน และภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง ที่จริงแล้วรายละเอียดการประลอง หลายคนก็มีหลายทัศนคติ แต่ว่าเนื่องจากไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริงก็เลยไม่ออกความเห็นมาก ผลแพ้ชนะพิสูจน์แล้ว สงครามที่ถึงชีวิตอยู่ที่ 2 ฝ่ายจะควบคุมเกมได้ดี และได้ดีกว่าแค่ไหน

Shimonoseki Shimonoseki Shimonoseki

Ganryu Island

http://www.musashi-miyamoto.com/sasaki-kojiro.html

miyamoto musashi
แต่ที่นี่มีคนญี่ปุ่นเล่าเรื่องได้สนุกมาก เลยเอามาเล่าต่อ เขาเล่าว่า ที่มุซาชิมาสายเพราะดันเหลาไม้พายที่ใช้พายเรือมาโดยไม่รู้ตัว เรือขาดพายก็เลยบังคับทิศทางยากกว่าจะไปถึง การเหลาไม้พายนั้นก็ไม่ต่างกับตอนที่มุซาชิหาวิธีชนะเอาตัวรอดจากความตายตอนที่ถูกสำนักดาบโยชิโอกะรุมสังหาร จนค้นพบวิธีใช้ดาบสองมือ รอบนี้ก็เช่นกัน ซาซากิโคจิโร่ขึ้นชื่อเรื่องดาบยาวที่ได้เปรียบเรื่องระยะโจมตี แถมยังใช้เพลงดาบนกนางแอ่นกวนกลับซึ่งเป็นกระบวนท่าต่อเนื่องที่สองได้อีกยากนักที่จะเอาชนะได้ในดาบเดียว ดาบมุซาชิสั้นกว่า ระยะโจมตีนี้ ทำให้ ซาซากิสามารถโจมตีมุซาชิได้อย่างน้อย 2 ดาบ หนทางที่ผุดแว่บขึ้นมาก็คือ ต้องหาระยะดาบที่ยาวกว่ามาใช้ต่อสู้  ซึ่งจะทำให้ตัดสินดวลกันได้ที่กระบวนท่าแรกกระบวนท่าเดียวซึ่งขณะที่อยู่บนเรือมีเพียงไม้ที่ใช้พายนั่นแหละที่มีระยะยาวที่สุดที่จะนำมาใช้ได้แล้ว คิดได้ก็เลยเหลาไม้พายเตรียมพร้อมไว้ต่อสู้ แต่เมื่อไม้พายเอามาเหลาทำดาบไม้ ไม้พายที่ใช้พาย 2 อันเหลืออันเดียวก็ขาดความสามารถในการบังคับเรือให้แล่นได้ตามบังคับเป็นเหตุให้ช้า แต่แล้วก็มาถึงจนได้ และเมื่อลงจากเรือ การประลองก็จบลงในดาบเดียวตามคาด และเป็นที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ Miyamoto Musashi ผ่านการต่อสู้ด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพันมากกว่า 60 ครั้ง เขามีความสามารถที่จะรบชนะอย่างแท้จริง

แต่ถ้าใครสนใจเรื่องราวอย่างเป็นทางการควรอ่านที่ musashi-miyamoto.com ที่เป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงที่ใช้ในการตั้งต้นค้นหาข้อมูลของผม และนำมาอ้างอิงลงที่นี่ด้วยครับ

miyamoto musashi

He was transported to Ganryu Island on boat by a local fisherman, and, as part of his strategy, he arrived late for the duel once again, thus disturbing his opponent’s inner state. During the short trip, he sculpted a wooden sword which he used for the duel against Sasaki Kojiro. When the boat finally arrived, Sasaki and the officials were standing on the beach waiting for Musashi. Extremely irritated and blinded by rage, Sasaki Kojiro drew his katana and threw away his scabbard. Musashi saw this gesture and said to his enemy, If you have no more use for your sheath, you are already dead.”

miyamoto musashi

The dual began, and both men were on guard with respect for the other’s ability. One mistake, and it would all be over. Musashi provoked Kojiro into making the first attack, and then countered quickly, breaking Kojiro’s left ribs and puncturing his lungs, thus killing him.

miyamoto musashi

Before running back to his boat, He bowed to his downed opponent and the officials, realizing with sadness that one of the greatest swordsmen ever had just died. It was at this point that Musashi attained satori or spiritual awakening. From this moment on he renounced ever doing lethal duels.

Ganryu Island Ganryu Island

The duel between Miyamoto Musashi & Sasaki Kojiro

เกาะ Ganryujima เดิมชื่อ Funashima บนเกาะ จะมี “รูปปั้นมุซาชิและโคะจิโร่” ที่จำลองเหตุการณ์ตอนประลองดาบ เป็นสถานที่ที่ดูขลังดีเพราะมีคนญี่ปุ่นแวะเวียนมาเยี่ยมชมตลอด และสำหรับผมก็เป็นสถานที่ที่้เรานั่งซึมซับบรรยากาศได้เป็นวัน ๆ เพราะมุซาชิเป็นหนึ่งในตัวละครในการ์ตูนที่ชอบมาก เกาะนี้เรือขากลับเที่ยวสุดท้ายคือ 16.00 น. เพราะฉะนั้นใครอยากไปดื่มด่ำบรรยากาศบนเกาะนาน ๆ ควรไปช่วงเช้า อากาศกำลังดี ติดเอาอาหารกล่องไปนั่งทานก็จะอร่อยมาก เพราะที่ชิโมโนซากินี่เป็นแหล่งขึ้นชื่อเรื่องปลาปักเป้ามาก ๆ อร่อย ราคาดี และหาทานได้ง่ายครับ ร้านที่ขายปลาปักเป้าร้านแรกก็เริ่มที่นี่ ใกล้ ๆ กันมีตลาดปลาคาราโตะ และร้านอาหารเกี่ยวกับปลาปักเป้ามากมาย นอกจากนั้นก็มี พิพิธภัฑณ์สัตว์น้ำชิโมโนเซกิ(Shimonoseki Aquarium) ตั้งอยู่ติดกับช่องแคบคันม่อน (Kanmon Strait) มีทั้งหมด 4 ชั้น มีการรวบรวมปลาปักเป้ากว่า 100 ชนิดจากทั่วโลก ที่นี่น่าเที่ยวครับ ยังมีเรื่องราวมากมายที่ช่องแคบแห่งนี้ โดยเฉพาะเรื่องราวของต้นตระกุลไทระ และโยชิสีเนะ น่าไปใช้เวลาสัมผัส เจอกับคนที่ชอบการเดินทางแบบสัมผัสท้องถิ่นจริง ๆ ไว้เราจะมาเล่าเพิ่มเรื่อย ๆ ครับ

ย้ำอีกที เรือเที่ยวสุดท้ายออกจากเกาะ Ganryujima คือเวลา 16.00 น. นะครับ ใครวางแผนเดินทางควรไปตั้งแต่เช้า จะดีกว่าเพราะมีเวลามากพอที่จะเดินเล่นได้อย่างเต็มอิ่มครับ