A Social Enterprise – Singha Park
social Enterprise – Singha Park คืออะไร เป็นคำถามที่ชวนทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นและสนใจทำความเข้าใจไม่น้อย

ตัวอย่างของ กิจการเพื่อสังคม ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย ก็คือ สิงห์ปาร์ค ที่เริ่มต้นด้วยการทำโครงการริเริ่มทางการเกษตร ทำแปลงทดลองค้นคว้าพืชที่น่าปลูกหลาย ๆ ชนิดในไร่บุญรอดฟาร์ม เพื่อถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรในชุมชน ส่งเสริมทักษะอาชีพและความสามารถในการผลิตของเกษตรในพื้นที่ ตลอดจนการสร้างงาน สร้างอาชีพขึ้นมาจากโครงการทดลองต่าง ๆ ให้ชาวบ้านที่ว่างงาน หรืออยู่เฉย ๆ มีโอกาสทำงานหารายได้ ในพื้นที่โดยไม่ต้องเดินทางไปรับจ้างงานไกล ๆ จนในที่สุดได้กลายเป็นระบบพื้นฐานของ กิจการเพื่อสังคม ของสิงห์ปาร์คอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากปรับแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นหลากหลายรูปแบบให้เหมาะสมจนเป็นระบบที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ และเป็นการลงทุนที่มีเจตนารมย์ส่งเสริมสนับสนุนชาวบ้านในท้องถิ่น รวมถึงเกษตรกรรมในพื้นที่โดยรอบใกล้เคียงอย่างต่อเนื่องจริงจังมาเป็นระยะเวลาหลายปี
ที่จริงหากจะแปลความหมายตามตรงที่ใช้ในภาษาไทยที่ประกาศใช้โดย สำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (สกส.) – TSEO กำหนดคำแปลไว้ว่า “A Social Enterprise Thailand” คือ กิจการเพื่อสังคม หมายถึง คือ ธุรกิจหรือองค์กรที่ตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาสังคม/สิ่งแวดล้อม เป็นการเชื่อมโยงจุดแข็งของสองภาคส่วน คือ การจัดการที่มีประสิทธิภาพของภาคธุรกิจเอกชนมาร่วมกับการมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาของภาคสังคม เพื่อทำให้เกิดทางแก้ไขปัญหาที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน ** “กิจการเพื่อสังคมคืออะไร” – สกส.**
ตัวอย่างกิจการเพื่อสังคมในต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ Salvere กิจการที่เกิดขึ้นต่อยอดจากปัญหาการดูแลไม่ทั่วถึงของ Birmingham City Council หรือสภาท้องถิ่นของเบอร์มิ่งแฮม ประเทศอังกฤษ การเกิดขึ้นของกิจการนี้ช่วยตัดขั้นตอนการประเมินที่ยุ่งยากของรัฐออกไป กลายเป็นบริการออนไลน์ที่ตอบสนองอย่างตรงจุด เป็นบริการความช่วยเหลือที่เหมาะสม และให้ความมั่นใจได้ว่ามีมาตรฐาน มีการจัดการบริษัทเหมือนชุมชนคือพนักงาน ลูกค้า และผู้ช่วยจะได้ถือหุ้นส่วน 1 ปอนด์และมีสิทธิ์มีเสียงออกความเห็นในบริษัท –ที่มา สกส.***
อีกเคสตัวอย่างที่น่าสนใจ และมีชื่อเสียงไปทั่วโลกก็คือ คือ ธนาคารกรามีน-ธนาคารเพื่อคนยากจนแห่งบังคลาเทศ
ธนาคารกรามีน เป็นต้นแบบการให้สินเชื่อเพื่อคนมีรายได้น้อยที่ประสบความสำเร็จมาก จนทำให้ผู้ริเริ่ม “มูฮัมหมัด ยูนุส” ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพร่วมกับธนาคารกรามีนในปี 2006
ประโยคเด็ดจากธนาคารกรามีน คือ “We are the Bank, not the Charity. Charity never helps to development the country” ซึ่งแปลว่า “เรา (ธนาคารกรามีน) เป็นธนาคาร ไม่ใช่องค์กรการกุศล การกุศลไม่เคยช่วยให้ประเทศชาติพัฒนาได้” – ที่มา ศาสตราจารย์ ดร.พิริยะ ผลพิรุฬห์ ***
นั่นหมายถึงว่า Social enterprise หรือ กิจการเพื่อสังคม มีความหมายมากกว่า มีความหมายกว้างกว่ามูลนิธิ หรือธุรกิจเพื่อสังคม SocialBusiness และแตกต่างจาก CSR อย่างชัดเจน
ธุรกิจเพื่อสังคม มิได้ปฏิเสธการแสวงหากำไร ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ทำให้ขาดทุน และเลี้ยงตัวเองได้ สิ่งที่สำคัญก็คือ กำไรที่ได้จากการทำธุรกิจนั้นจะถูกนำกลับมาทำประโยชน์เพื่อสังคมส่วนรวม ไม่สามารถนำกลับไปปันผลเป็นการส่วนตัวได้ (สำหรับผู้ถือหุ้นที่ร่วมลงทุนก็จะรู้ตั้งแรกอยู่แล้วว่าการลงเงินนี้ก็เพื่อสังคม จึงไม่เอาผลกำไรจากการลงเงิน ส่วนเงินลงทุนที่ลงหุ้นไปนั้นผู้ถือหุ้นยังมีสิทธิ์ได้รับกลับคืน) หรือจะเรียกว่าการแสวงหากำไรไม่ได้มุ่งเน้นที่ตัวเงิน แต่เป็นกำไรที่ได้จัดการปัญหาบางอย่างของสังคม และสร้างสังคมให้มีความสุข
วิสาหกิจเพื่อสังคม และธุรกิจเพื่อสังคม
– Social Enterprise vs. Social Business – ที่มา **สถาบันไทยพัฒน์** –
“คำว่า ‘วิสาหกิจ’ (enterprise) ตามพจนานุกรม หมายถึง การประกอบการที่ยากสลับซับซ้อนหรือเสี่ยงต่อการขาดทุนล้มละลาย ส่วนคำว่า ‘ธุรกิจ’ (business) หมายถึง การประกอบกิจการในทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม หัตถกรรม พาณิชยกรรม การบริการ หรือกิจการอย่างอื่นเป็นการค้า หรือหมายถึง การงานประจำเกี่ยวกับอาชีพค้าขาย หรือกิจการอย่างอื่นที่สำคัญและที่ไม่ใช่ราชการ ”
มูฮัมหมัด ยูนูส ผู้บุกเบิกธุรกิจเพื่อสังคมในบังกลาเทศ ได้ขยายความ เกี่ยวกับ ธุรกิจเพื่อสังคม ตามนิยามของเขา ว่ามี 2 ประเภท
- ประเภทแรก ยูนูสเรียกว่า Type I social business คือ non-loss, non-dividend company ที่ทำงานอุทิศให้กับการแก้ไขปัญหาทางสังคมและถือหุ้น โดยนักลงทุนที่/พร้อมจัดสรรกำไรจากการดำเนินงานทั้งหมดในการขยายและปรับปรุงธุรกิจเพื่อสังคมของตนให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
- ประเภทที่สองเรียกว่า Type II social business คือ profit-making company ที่มิได้ถือหุ้นโดยนักลงทุนหรือบุคคลทั่วไป แต่เป็นคนยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสที่เข้าเป็นเจ้าของ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม และได้รับโอกาสให้นำกำไรที่ได้จากการดำเนินงาน ไปบรรเทาปัญหาความยากจนนั้น ได้ตามวัตถุประสงค์ของธุรกิจเพื่อสังคมนั้น ๆ
Social enterprises Thailand
ตัวอย่างของ กิจการเพื่อสังคม ที่ประสบความสำเร็จในบ้านเราก็คือ สิงห์ปาร์ค Singha Park ที่เริ่มต้นด้วยการทำโครงการริเริ่มทางการเกษตร ทำแปลงทดลองค้นคว้าพืชที่น่าปลูกหลาย ๆ ชนิดในไร่บุญรอดฟาร์ม เพื่อถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรในชุมชน ส่งเสริมทักษะอาชีพและความสามารถในการผลิตของเกษตรในพื้นที่ ตลอดจนการสร้างงาน สร้างอาชีพขึ้นมาจากโครงการทดลองต่าง ๆ ให้ชาวบ้านที่ว่างงาน หรืออยู่เฉย ๆ มีโอกาสทำงานหารายได้ ในพื้นที่โดยไม่ต้องเดินทางไปรับจ้างงานไกล ๆ จนในที่สุดได้กลายเป็นระบบพื้นฐานของ กิจการเพื่อสังคม ของสิงห์ปาร์คอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากปรับแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นหลากหลายรูปแบบให้เหมาะสมจนเป็นระบบที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ และเป็นการลงทุนที่มีเจตนารมย์ส่งเสริมสนับสนุนชาวบ้านในท้องถิ่น รวมถึงเกษตรกรรมในพื้นที่โดยรอบใกล้เคียงอย่างต่อเนื่องจริงจังมาเป็นระยะเวลาหลายปี
Singha Park
นอกจากการทำแปลงทดลอง สร้างงาน สร้างอาชีพ ไปพร้อม ๆ กับการทำแปลงทดลองพืชผักผลไม้ชนิดต่าง ๆ เช่น แปลงเพาะเห็ด ไร่เสาวรส ไร่พุทราไร่กระเจี๊ยบ ไร่ชาอู่หลง ที่สามารถนำมาส่งเสริมอาชีพ ถ่ายทอดทักษะการผลิต ให้คำแนะนำในการปลูกอย่างจริงจังในแง่การผลิตเชิงเกษตรแล้ว ก็ยังเป็นผู้รับซื้อสินค้าเหล่านี้เพื่อเป็นช่องทางการหมุนเวียนสินค้าเกษตรให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในจังหวัดเชียงราย โดยการดูแลการจัดการจัดจำหน่าย สิงห์เป็นผู้รับดูต่อ ทั้งการคิดสร้างสรรค์ปรับแพคเกจกิ้งให้น่าซื้อ และปรับปรุงพื้นที่ในสิงห์ปาร์คเพื่อให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเชียงรายได้แวะมาเที่ยว ได้นำเสนอสินค้าผลิตภัณฑ์ของ Singha Park สู่นักท่องเที่ยว
ในเวลาต่อมา Singha Park เองก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนึงในจังหวัดเชียงราย เป็นการเติบโตของ กิจการเพื่อสังคม ที่นอกเหนือจากจะสร้างคน สร้างงาน สร้างอาชีพและสร้างรายได้ ก็พัฒนาไปสู่ระบบครบวงจร ที่รองรับนักท่องเที่ยว ที่จะมาเป็นผู้ซื้อ กลายเป็นระบบจัดจำหน่ายและระบายสินค้าของ กิจการเพื่อสังคม ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบการขายผลิตภัณฑ์การเกษตรของ Singha Park A Social enterprises กิจการเพื่อสังคม และเป็นวัตถุดิบในร้านอาหาร ซึ่งเท่ากับกลายเป็นระบบที่ครบวงจรตั้งแต่การผลิต การค้นคว้าและการทำแปลงทดลอง การนำความรู้ที่ได้มาส่งเสริมความรู้เกษตรกร พร้อมการรับซื้อ การรองรับตลาดรวม การเป็นช่องทางการจัดจำหน่าย และการเป็นสถานที่ดึงดูดนักเที่ยว ตอบสนองลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์การเกษตรที่มีคุณภาพ
การเป็นกิจการเพื่อสังคมที่มีระบบครบวงจร เทำให้ สิงห์ปาร์ค Singha Park ในปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผลิตภัณฑ์การเกษตรไว้ตอบสนองและเปิดช่องทางจากโครงการเพื่อพัฒนาการเกษตรไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวที่รองรับนักท่องเที่ยวได้อีกทางนึง ปัจจุบันแปลงทดลองได้พัฒนาไปเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปด้วยพร้อม ๆ กัน ซี่งผู้บริโภคก็ได้รับความรู้และความมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์การเกษตรของสิงห์ปาร์ค ในขณะที่มาท่องเที่ยวเยี่ยมชมไร่บุญรอด และพื้นที่ต่าง ๆ ของสิงห์ปาร์คที่พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อน และถ่ายรูปสวยๆ ของครอบครัว เป็นสถานที่ออกกำลังกาย เป็นสถานที่ปั่นจักรยาน และทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดจนรองรับอีเวนท์ กิจกรรมมากมายหมุนเวียนไปตลอดปี เป็นการหมุนเวียนของระบบ ปัจจุบันสิงห์ปาร์คที่มีคนเชคอินออนไลน์มากที่สุดแห่งนึงในเชียงรายอีกด้วย หรือพูดได้ว่าเป็น ตัวอย่าง Social enterprise Thailand กิจการเพื่อสังคมในประเทศไทย ตัวอย่างหนึ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง
- ตัวอย่างของ กิจการเพื่อสังคม ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย ก็คือ สิงห์ปาร์ค Singha Park – A Social enterprises ที่เริ่มต้นด้วยการทำโครงการริเริ่มทางการเกษตร ทำแปลงทดลองค้นคว้าพืชที่น่าปลูกหลาย ๆ ชนิดในไร่บุญรอดฟาร์ม เพื่อถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรในชุมชน ส่งเสริมทักษะอาชีพและความสามารถในการผลิตของเกษตรในพื้นที่ ตลอดจนการสร้างงาน สร้างอาชีพขึ้นมาจากโครงการทดลองต่าง ๆ ให้ชาวบ้านที่ว่างงาน หรืออยู่เฉย ๆ มีโอกาสทำงานหารายได้ ในพื้นที่โดยไม่ต้องเดินทางไปรับจ้างงานไกล ๆ จนในที่สุดได้กลายเป็นระบบพื้นฐานของ กิจการเพื่อสังคม ของสิงห์ปาร์คอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากปรับแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นหลากหลายรูปแบบให้เหมาะสมจนเป็นระบบที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ และเป็นการลงทุนที่มีเจตนารมย์ส่งเสริมสนับสนุนชาวบ้านในท้องถิ่น รวมถึงเกษตรกรรมในพื้นที่โดยรอบใกล้เคียงอย่างต่อเนื่องจริงจังมาเป็นระยะเวลาหลายปี
ปัจจุบันเรากำลังมีร่าง พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหิกิจเพื่อสังคม มารองรับ กิจการเพื่อสังคมอย่างเป็นทางการ เและเชื่อว่าในบ้านเราน่าจะมี กิจการเพื่อสังคม เกิดขึ้นอีกจำนวนมาก ด้วยความมุ่งหมายที่มากกว่ากำไร แต่เป็นการแก้ปัญหาให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี มีงาน มีรายได้ มีความสุขแก่สังคม
เอกลักษณ์ที่ชัดเจนของ Social enterprise Thailand กิจการเพื่อสังคมในประเทศไทย ก็คือจิตสำนึก ความต้องการให้สังคมดี ประชาชนในสังคมได้รับประโยชน์จากกิจการ สิ่งเหล่านี้จะสร้างความสุขระยะยาว ให้กับสังคมที่เราอยู่ อย่างยืนยาวและยั่งยืนครับ
กิจการสังคมที่ใช้กำไรในการทำให้เกิด รอยยิ้ม และความสุขของสังคม ได้ ช่างเป็นกำไรที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ครับ – จีระนันท์ จิระบุญยานนท์