วันนี้เพิ่งได้่แวะไป MAGNUM CAFE’ ที่ SIAM CENTER ครับ เท่าที่ทราบร้านMagnum cafe ของประเทศไทย จะเปิดถึงแค่เดือน พค.นี้ ส่วนสำหรับวันนี้ ช่วงที่ไป บรรยากาศคึกคักมาก ด้านหน้าคนเข้าคิวรอชิม MMM กันคิวยาวมากๆ กลายเป็นเทรนด์ไม่เคยไปไม่ได้แล้ว
MMM หรือ Make My Magnum ก็คือเมนูแมกนั่ม + ทอปปิ้งกว่า 20 ชนิด แล้วเลือกชอกโกแลตที่ใช้เคลือบได้ ที่แม็กนั่ม คาเฟ่ ครับ ปกติเลือกหน้าได้ 3 อย่าง (รู้สึกจะเพิ่มได้อีก โดยเพิ่มเงิน) ตัวนี้ยอมรับว่าฮิตมาก คนยอมเข้าแถวรอกันยาวมากเพื่อรอชิม เมนูแม็กนั่ม คาเฟ่แบบเลือกเองได้ เห็นสนุกกันใหญ่กับการเลือกหน้านั้นหน้านี้มาอวดกัน
แต่นอกจากมุมนี้แล้ว ร้านที่ออกแบบคราวนี้ของไทย ก็เห็นได้ว่ามีความพยายามสร้างสรรค์อีกหลายส่วน เช่น อาหารและเครื่องดื่มสไตล์เฉพาะของที่ร้านแม็กนั่ม คาเฟ่ ที่ค่อนข้างรู้สึกได้ถึงความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์เมนูใหม่ที่ไม่เคยมีก่อนหน้านี้ขึ้นมาให้มีรายละเอียดที่ต่าง เพื่อให้เกิดการจดจำ และความประทับใจในรสชาติ
อันนี้ชอบครับ ส้มตำใส่ปูอลาสก้า สูตรดั้งเดิมแต่ปรับให้ทานง่าย พอดีไม่ทานเผ็ดเลยยิ่งถูกใจ เพราะปกติต้องบอกแม่ค้าลดพริกบ่อยๆ แต่ที่นี่พอดีรสชาติที่ชอบเลยลงตัว อีกอันก็คือ ผัดไท เส้นหนุบหนึบ อร่อย เป็นการประยุกต์เมนูแบบง่ายๆ แต่ได้รสชาติที่คุ้นเคย ซึ่งผมว่ามันไม่จำเป็นต้องแหวกรสชาติไกลไปจนไม่รู้จัก แต่ให้เห็นความต่างโดยยังคงความคุ้นเคยแบบนี้ ประทับใจกว่า
ที่เน้นไปมากกว่านั้นคือการพยายามสร้างสรรค์เมนู แม็กนั่ม กรูเม่ท์ (Magnum Gourmet) อาหารคาวหวานที่ใช้แมกนั่มเป็นวัตถุดิบส่วนหนึ่งในเมนู อันนี้น่าสนใจดีครับ สารพัดเมนูที่คิดขึ้นมานี้มีหลายเมนูที่น่าลองชิมในใจ ส่วนตัวที่จริงไม่ถนัดของหวานเท่าไหร่ แต่ว่า แมกนั่ม คาเฟ่ ที่เปิดร้านในระยะเวลาจำกัด และเมนูที่ยังไม่เคยมีที่ไหน เป็นเงื่อนไขที่กระตุ้นให้เร้าใจมาก คนออกแบบเข้าใจอารมณ์ฟินที่ได้สัมผัสความรื่นรมย์ในการกินแมกนั่มแบบใหม่ๆ ที่มีระยะเวลาจำกัด ซึ่งเป็นสิ่งเร้าโดยธรรมชาติของคนที่ชอบสัมผัสอะไรที่ใหม่และแปลก ซึ่งที่จริงแล้วถ้าตามมาด้วยคำว่าโดน ก็ถือว่าจับทางถูก
ในแง่ความสร้างสรรค์แล้ว การเริ่มต้นสร้างสรรค์ประสบการณ์การทานอาหารที่พิเศษ สร้างสรรค์ความประทับใจในการสัมผัสรสชาติอาหารที่แตกต่างไปจากมุมเดิมๆ เปิดจุดเด่นที่ข้ามขีดจำกัดมุมมองเดิมๆของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ไปได้ และเชื่อว่าน่าจะเกิดกระแสการใช้งบสร้างสรรค์ความประทับใจผ่านประสบการณ์ตรงของผู้บริโภค ถ้าจะเปรียบได้ ร้าน MAGNUM CAFE’ ที่กำลังตั้งในประเทศไทยร้านนี้ ก็เหมือนกับป้ายโฆษณาที่มีชีวิต ที่เปิดให้ผู้บริโภคได้สัมผัส แม็กนั่ม ในมิติประสบการณ์ที่ล้ำลึกขึ้น การลงทุนแบบนี้คุ้มค่ากว่าป้ายโฆษณาบิลบอร์ดข้างทางสัก 3 ป้าย เสียอีก เพราะทิ้งรอย ความประทับใจ ประสบการณ์ และความทรงจำของผู้บริโภค ไปอีกนานๆ แม้ว่าจะได้สัมผัสเพียงครั้งเดียว
อีกจุดที่ต้องชมก็คือพนักงานทุกคนสนใจ และใส่ใจรายละเอียด ในการตอบสนองลูกค้าค่อนข้างมาก การรองรับลูกค้าจำนวนมากๆ ตลอดเวลา เหนื่อย และการไม่ได้พักช่วง หรือเจอลูกค้าเอาแต่ใจ มันเร้าให้เกินขีดจำกัดความอดทนได้ง่าย แต่ทุกคนก็ควบคุมได้ดี และแสดงให้เห็นความความพยายามควบคุมอารมณ์ ทั้งที่ต้องรับมือกับลูกค้าจำนวนมากๆไม่ได้หยุดเลย (เป็นเราคงรับมือได้ไม่เกิน ชม..) สะท้อนและแสดงถึงความใส่ใจที่มุ่งเน้นความประทับใจอย่างลงลึกรายละเอียดครับ แต่มุมนี้ไม่หมูเลย เพราะต้องรับมือกับคนเยอะมากๆ
เกร็ดน่ารู้ก็คือ Magnum Café เป็น ซูเปอร์ ป๊อบอัพ สโตร์ แห่งแรกในเมืองไทยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ถัดจาก Magnum Café ที่อินโดนีเซีย
โดยมีขนาดพื้นที่ใหญ่ประมาณ 400 ตรม. สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 170 ที่นั่ง และเป็น ซูเปอร์ ป๊อบอัพ สโตร์ แห่งที่ 5
นอกจากก้าวของประสบการณ์ประทับใจที่ต่อไปเชื่อว่าจะเกิดกระแสไม่แวะไปสักครั้งไม่ได้แล้ว ก็น่าติดตามว่าโลกของการสร้างสรรค์ความประทับใจของสินค้าในหมวดอาหาร จะเกิดกระแสต่อไปอีกแค่ไหน จะมีเจ้าไหนคิดและทำอะไรใหม่ๆออกมาอีก เป็นเรื่องที่น่าติดตามจริงๆครับ..