“สิ่งที่ไม่เคยมี” กับ “สิ่งที่สูญเสียไป” เหมือนกันรึเปล่า..
สำหรับผม อันแรกเป็นแค่ความคิดครับ
ไม่เคยมี > วันนึงอาจจะมี หรืออาจจะยังอีกนาน > หรือไม่เคยมีตลอดชีวิต > อยู่ในห้วงคิดคำนึงเท่านั้น
อันสองเป็นเรื่องการกระทำ ที่รู้ผลแล้ว
สิ่งที่สูญ เสียไป > เมื่อวันนั้นเคยมี > วันนี้ไม่มีแล้ว >
ส่วนใหญ่ทุกคนมักจะคิดว่า เราต้องมีก่อน เราถึงจะสูญเสียได้ และถ้าเสียแล้วมันก็จะเสียไปเลย
แต่ที่จริง พรุ่งนี้เราอาจจะมีมันอีกก็ได้ จะเป็น
วันนั้นมีเงิน > วันนี้ไม่มี > พรุ่งนี้ มะรืนนี้อาจมีอีกหรือไม่มีก็ ได้
หรือ มีแล้วอาจจะไม่มีมันอีกตลอดไป สูญเสียมันไปตลอดกาล (แต่คุณก็เคยมีช่วงเวลาที่มีตรงนั้น และถ้าเก็บเกี่ยวมันไว้อย่างเต็มที่ มันก็คือความรู้ทันมีสติว่า มันมีวันที่ทุกสิ่งจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม)
บางครั้งสิ่งที่สูญเสียไปแล้ว ทำให้คนเราเติบโต และแกร่งขึ้นกว่าเดิม
ได้เรียนรู้ว่าชีวิตมัน เป็นแบบนี้นี่แหละ มีทั้งได้มาและเสียไป เป็นทั้งความทรงจำ และเป็นชีวิตของคน ปุถุชนธรรมดาที่มีหัวเราะ ร้องไห้ และเฮฮาได้
ต่างจากอันแรกที่ไม่ เคยมี เพราะไม่เคยทำ..❤
ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าเราไม่พบกัน จะมีจากกันหรือเปล่า..
ถ้าเราไม่ได้ไป เจอกัน จะต้องร่ำลากันไหม..
ถ้าไม่มีงานบางงาน เราอาจจะไม่เคยพบกัน คุยกัน
ก่อนที่จะต้องร่ำลาจากกันไปตามวิถีชีวิต แต่จะเป็น “ไม่เคยมี”…
ไม่เคยมีแม้กระทั่งโอกาสที่จะเจอกันและรู้จักกัน จนถึงขนาดเดินสวนกันก็ไม่มีความหมายอะไร
สำหรับชีวิตจริง การก้าวไปเพื่อรับรู้ว่ามันจะมีหรือไม่มี ดีกว่าปล่อยไว้ในใจ
ไม่เคยมี เพราะว่าลองแล้วไปไม่ถึง มันคือโอกาสที่ทดลองพิสูจน์แล้วว่าเคยลองที่จะมี แต่มันไม่มี
ดีกว่าไม่เคยมี เพราะไม่เคยลอง ไม่เคยทำ ไม่เคยก้าวเอาตัวเองออกจากกำแพง เพื่อลองทำสิ่งที่คิดว่าน่าจะเคยมี
(อีกด้านบางคนก็ไม่เคยมีอะไรเลย เพราะ “ไม่เคยมี” แม้แต่ความคิดอยากได้ อยากมี อยากทำ อยากรู้อยากลองอะไร)
แต่ในชีวิตทางโลกนั้น ยกตัวอย่างง่ายๆ
ระหว่าง เบียร์ที่ไม่เคยกิน ก็ต้องไม่เคยรู้รสชาติอร่อย ไม่อร่อย
กับเบียร์ที่ได้ลองกินแล้ว ไม่ว่าจะรสชาติดี แต่สูญเสียรสชาติไปเพราะหายเย็น..หรือไม่อร่อย หรืออร่อย
ร้าน ที่ไม่เคยกิน อาจจะอร่อย หรือไม่อร่อย…
แต่ร้านที่แน่นอนกว่า คือ ร้านที่สาวเท้าเดินไปกินให้รู้ ว่าเสียตังค์เปล่า (แต่ก็เคยกินแล้ว) หรือจะกลายเป็นร้านขาประจำที่ยอมมาเสียเงินกินบ่อยๆต่อไปในอนาคต..
ทุกอย่างไม่มีผิดถูก ไม่มีควรทำหรือไม่ควรทำ แต่เป็นสิ่งที่คนๆนั้นจะต้องเลือกเองเสมอ
แต่รสชาติของชีวิตมันก็อยู่ตรงนี้ครับ อยู่ที่ คิด และ ทำ นี่แหละ..
สิ่งที่สำคัญก็คือ การที่คุณจะต้องเดินไปสัมผัสรับรู้รสชาติของความเป็นจริงของชีวิตเท่านั้นเอง