ได้ดูเทป 2 เมื่อวันเสาร์ที่แล้วทำให้หายคาใจบางเรื่อง และเห็นภาพรวมของแต่ละคนมากขึ้นครับ
จากข้อมูลผู้เข้าแข่งขัน และดูเทป 2 ถึงเห็นชัดว่า การแข่งขันทำในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และรับข้อมูลกันวันศุกร์

ซึ่งเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะความกระชั้นของการดำเนินการ
มีจุดอ่อนที่แม้นักการตลาดมืออาชีพเองก็ทราบว่า มันไม่สามารถทำให้เรามองภาพรวมได้อย่างลุ่มลึกและสุขุมได้มากพอ
เพราะฉะนั้น ผมก็ถือว่าเป็นแต้มต่อ หรือ Handicap ที่เราควรจะให้เด็กๆหรือน้องเหล่านี้ในเกม
ในเวลาที่เราดูแล้วรู้สึกบางส่วนมันขาดๆเกินๆ

การที่เกมมันเริ่มทีเดียวจบทีเดียวในแต่ละสัปดาห์
จะไม่มีความต่อเนื่องในการปรับเปลี่ยนกลยุทธในสนามเดิม
เช่น อาทิตย์หน้ามาชนกันด้วยโจทย์เดิมและสถานที่เดิมอีกครั้ง
เพื่อประเมินพัฒนาการและความสามรรถในการปรับเปลี่ยนกลยุทธระยะยาว
แล้วมาวัดๆจากประสบการณ์ภาคสนามในพื้นที่กันอีกรอบด้วยโจทย์เดิม
เพื่อวัดศักยภาพในระดับพัฒนาการ และความสามารถในการย่อยแยกแยะข้อมูลการตลาดที่ผ่านมา
ดูว่าเขาสามารถปรับกลยุทธที่ตัวเองคิดว่าลงตัวอีกครั้งได้จริงไหม และอย่างไร
เพราะสนามการตลาด ที่จริงแล้วเราไม่ใช่ชนกันวันเดียว แต่ชนกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ขณะเดียวกันผมก็เห็นว่าความกระชั้นนั้นขับเน้นให้แต่ละคนต้องอัดความสามารถส่วนตัวออกมาชดเชย
การทำให้เกิดแรงขับที่จะต้องทำให้ได้และให้ดีมาชดเชยแทน ย่อมถือเป็นข้อดีที่เราจะเห็นผู้เข้าแข่งขัน
ได้พยายามผลักดันตัวเองให้มีบทบาทในทีม และในเกมโดยนัยยะ

อีกจุดหนึ่งข้อดีของการลำดับเรื่อง ปีนี้มีเวลามากขึ้น ทำให้เรามีเวลามากขึ้นในการซึมซับการแข่งขัน
คำบรรยาย มีหลายคนบ่น แต่ผมว่าสำหรับคนที่ไม่มีพื้นการตลาดก็ช่วยให้เขาตามดูทันมากขึ้น
เรื่องนี้เราต้องเข้าใจว่าคนดูมีหลายกลุ่ม ทางรายการกระจายแบ่งๆกันไป เป็นสิ่งที่ยอมรับได้

ช่วงเวลาที่เต็มอิ่มถึง ชม.ครึ่ง ปัจจุบันแบ่งส่วนออกเป็น 3 ส่วนใหญ่
คือ ภารกิจ การตัดสิน และผลสรุป ซึ่งพิเศษในปีนี้ตรงที่
ผศ.รอ.นพ.ดร.สุมาส วงศ์สุนพรัตน์ ท่านมาอธิบายโจทย์ให้คนดูฟัง
เป็นประโยชน์มาก ให้ความรู้ในประเด็นที่ควรรู้ ควรทราบเป็นพื้นฐานของแต่ละภารกิจ
และในระยะยาว เทปเหล่านี้ยังนำมาใช้เป็นเคสสอนการตลาดได้อีกด้วย

แต่ผมก็เห็นด้วยกับหลายๆคนว่า การถ่ายทอดเรื่องยังใช้เวลาไม่คุ้ม
และการตัดต่อภาพยังขาดช่วงเวลาส่วน ที่จะขับเน้นผู้เล่นทุกคนออกมา
เราไม่ได้เห็นช่วงเวลาที่ทุกคนในทีมนำเสนอความคิดร่วมกัน
ไม่ได้เห็นบรรยากาศการถกเถียงนำเสนอความคิดลึกลงไปในกลุ่ม
อันทำให้คนดูสัมผัสถึงบุคลิกภาพของผู้เข้าแข่งขันได้อย่างเต็มที่นัก
แต่ก็เชื่อว่าเมื่อคนน้อยลง รายการก็จะมีเวลามากขึ้นในการถ่ายทอดภาพเหล่านี้
ของผู้แข่งขันแต่ละคนให้ทั่วถึงกัน


และน่าจะหรือควรจะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆในทุกเทปที่ออกมา เพราะมีข้อมูลสะท้อนของผู้บริโภค
โดยเฉพาะโลกอินเตอร์เน็ต และบอร์ดสำคัญๆ ที่มีคนเข้าเยอะมากอย่างพันทิป

นอกจากนั้นแล้วผมก็เห็นว่า ผู้เข้าแข่งขันเองก็สามารถที่จะใช้สื่ออินเตอร์เนต
เป็นเวทีที่แสดงความคิดเห็น และเล่าเรื่องของตัวเองเสริมได้(โดยจะเปิดเผยตัวหรือไม่ก็ได้)
อันเป็นช่องทางหนึ่งในการรับรู้ทัศนคติของผู้ชมครับ

ทีนี้จะเข้าเรื่องของภารกิจก็เขียนมาเสียยาว เดี๋ยวมาต่อ ภาค ๒ กันครับ…..(มีต่อ)
ปีนี้ เทป ชม.ครึ่ง คงจะไม่พอสำหรับบทความตอนเดียวเสียแล้ว

เดี๋ยวมาคุยกันต่อครับ