มีชายชราคนหนึ่งที่เหมือนมีทุกสิ่งในชีวิตครบถ้วนตามที่คนในหมู่บ้านอยากมีกัน​ ชายชรามีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนหนึ่ง
ชายชรามีม้าที่ดีที่สุดที่ได้รับรางวัลมากมายนับเป็นสิ่งมีค่ายิ่ง
ชายชรามีทรัพย์สินมากมายและเป็นที่รู้จักของคนในหมู่บ้าน​

วันหนึ่ง​….
ม้าตัวนั้น​ ​ตัวที่ดีที่สุด​ ​ได้หายไปจากคอก​…….​

ชาวบ้านทราบข่าว​ ​รีบมาแสดงความเสียใจกันเสียยกใหญ่
ทุกคนบอกกับชายชราว่า​”ม้าท่านหนีไปแล้ว​ช่างโชคร้ายอะไรเช่นนี้” ​

ชายชราตอบว่า​ “พวกท่านรู้ได้ไงว่า​เป็นโชคร้าย”

2-3 ​วันต่อมา​ ​ม้าของชายชรากลับมา
เพราะต้องการน้ำ และอาหาร และได้นำม้ามาอีก 12 ตัว​ ​

พวกคนในหมู่บ้านรีบมาแสดงความยินดีกันยกใหญ่
พากันกล่าวว่า​ ” ท่านช่างโชคดีอะไรเช่นนี้”
ชายชราตอบว่า​ “พวกท่านรู้ได้ไงว่า​เป็นโชคดี”

วันเดียวหลังจากนั้น
ลูกชายของชายชราได้ไปนั่งบนม้าตัวหนึ่ง​ใน​ 12 ​ตัวนั้น
และโดนม้าดีดตกจากม้าทำให้​เขา​ต้องพิการไปตลอดชีวิต
ชาวบ้านพากันบอกชายชราว่า​ “โถท่านช่างโชคร้ายอะไรเพียงนี้ที่ลูกต้องมาพิการแบบนี้”
ชายชราตอบว่า​ “พวกท่านรู้ได้ไงว่า​เป็นโชคร้าย”

1 ​ปีถัดมา​ ​ได้เกิดสงคราม​ ​จึงเกิดการเกณฑ์ทหาร
ชายหนุ่มที่สมบูรณ์​ในหมู่บ้าน​ต้องไปเป็นทหารทั้งหมดเพื่อออกรบ
ผลคือพวกเขาแพ้สงคราม​และ​ชายเหล่านั้นถูกฆ่าตายหมด
จึงเหลือชายหนุ่มในหมู่บ้านเพียงคนเดียว คือ​…​ลูกชายของชายชรา​

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า​

เราไม่รู้ว่า​เหตุการณ์ไหน​เป็นโชคดี หรือ ร้าย อย่างแท้จริง

ดังนั้น​อย่าตัดสิน​ด้วยความยึดติด
หากถึงคราวโชคดีอย่าหลงระเริง​ ​เมื่อโชคร้ายก็อย่าฟูมฟายจนขาดสติ​

จาก​ http://www.expert2you.com